รีวิว Middle-earth: Shadow of Mordor

สวัสดีครับ!!!นี้เป็นเกมล่าสุด ที่ผมพึ่งซื้อมาจาก steam สดๆร้อน ผมเชื่อว่าทุกๆท่าน ต้องมีซักครั้งนึงในชีวิตการเล่นเกม ที่ต้องเคยจับเกมจากหนังเรื่องนี้…ซึ่งก็มีสนุกบ้าง แป้กบ้าง (ส่วนใหญ่จะแป้กนะ) กับหนัง “ตำนานแหวนครองพิภพ” ที่มีชื่อว่า“The Lord of the Ring” นั่นเอง

พวกเรา เหล่าเกมเมอร์ ได้เดินทางมุ่งหน้าสู่ “ มัชฌิมโลก” เป็นครั้งที่…เท่าไหร่แล้วล่ะเนี่ย?!

เกมนี้คือ!?

Middle-earth: Shadow of Mordor เป็นเกม Action / RPG / Open world มุมมองบุคคลที่สาม ซึ่งพัฒนาโดย Monolith Productions ผู้สร้างเกมยิงสุดสยองขวัญสั่นประสาท ที่มีความโหดระดับ10กะโหลกอย่างเกม “F.E.A.R.” ทั้งสามภาค ตัวเกมจะสร้างขึ้น โดยอ้างอิงโลกทัศน์จากงานเขียนของ J.R.R. Tolkien ผู้ให้กำเนิด The Lord of the Rings และจัดจำหน่ายโดย Warner Bros. ครับ

Talion (ทัลเลี่ยน) นักธนูหนุ่มผู้กลับมาจากนรก ที่พกพาดีกรีความโหด “ระดับ 10 กะโหลก”
เนื้อเรื่องย่อๆของเกมก็จะเดินเรื่อง ขนานไปกับเนื้อหาภาคหลักๆอย่าง The Lord of the Rings และ The Hobbit (อีกแล้ว งอกเยอะจริงๆ ทำเป็น“กันดั้ม”ไปได้ Side Storyเยอะมาก)
Themeเรื่อง จะมืดหม่น ดูอึมครึมกว่าในหนังที่เคยดูกันครับ เพราะเนื้อหา เกี่ยวกับการแก้แค้น การฆ่าสังหาร และไขปมความลับทั้งหมดในมอร์ดอร์ ดังนั้น “ขอให้ลืมภาพแสงสีสวยๆไปได้เลย”ครับ

การเดินทางครั้งใหม่ ที่ไม่ได้สดใสเอาซะเลย มีแต่ความมืดมน สมกับชื่อเกมจริงๆ…

โดยผู้เล่นจะรับบทเป็น Talion (ทัลเลี่ยน) กระทาชายนายมนุษย์ธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่วันนึงเขาสูญเสียทุกอย่าง ทั้งครอบครัว บ้านเกิด และคนรัก รวมถึงชีวิตของตัวเขาเอง จากการบุกเข้าโจมตีมอร์ดอร์ของ “เซารอน”ตัวร้ายที่คอหนังทุกคนคุ้นเคย
แต่ทว่า ตัวเขายังพอมีโชคดีหลงเหลืออยู่บ้าง ทำให้ตัวเขา “ถูกปีศาจที่ทรงพลังสิงสถิตย์”ในร่างของเขา ทำให้ Talion ฟื้นขึ้นมาจากขุมนรก และออกเดินทางตามล่าตามล้างแค้น ทวงความเป็นธรรมให้กับครอบครัวของเขาที่ถูกฆาตรกรรม แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ต้องต่อสู้กับปีศาจในร่างของตัวเขาเองด้วย เพราะมันก็กำลังต่อสู้ดิ้นรนเพื่อ กัดกินร่างของเขา จนทำให้เขากำลังจะเป็นปีศาจเสียเอง
(พล๊อตยังกะหนังเรื่อง “The Crow : อีกาพญายม” เลย…เก่าไปมั้ย?)

GAMEPLAY

ในเกม Middle-earth: Shadow of Mordor ความเก่งกาจของTalion จะขึ้นอยู่กับ “ค่าEXP และทักษะสกิล” ดังนั้น อยากเก่งก็ต้องเก็บเวลด้วย โดยตัว Talion มีความสามารถของปีศาจสิงอยู่ในร่าง เช่นทำให้เขาสามารถเห็นโลกหลังความตาย เพื่อเปิดโหมด “สโลว์โมชั่น” ทำให้เวลาช้าลง หรือจะหายตัวไปในตำแหน่งต่างๆ เป็นต้น

คาถาแยกเงาพันร่าง!! ไม่ใช่ละ อันนั้นของ “นารุโตะ”…

สกิลเหล่านี้จะถูกเรียกว่า “Wraith abilities” ซึ่งสกิลเหล่านี้สามารถเลเวลอัพและแยกย่อยเป็นสายการเล่นต่างๆได้อีก ทำให้การเล่น ไม่ได้มีรูปแบบตายตัวซักเท่าไหร่ เพราะความสามารถสารพัดแบบที่ตัวผู้เล่นมี ก็ทำให้เกิดช่องทางการผ่านเควสต่างๆที่หลากหลายขึ้น

แน่นอนว่า เรายังคงต้อง “ปะ ฉะ ดะ” กับพลพรรคตัวเขียวพวกนี้เหมือนภาคก่อนๆอยู่ดี….

เช่น สมมติว่า ถ้าผู้เล่นได้รับเควสที่จะต้องไปฆ่า อุรุกไฮ(Uruk) ระดับสูง ผู้เล่นจะสามารถเลือก “เข้าไปฉะ”กับพวกมันตรงๆ หรือใช้ Wraith abilities ทำให้พวกมันทรยศ และพยายามกำจัดผู้นำของพวกมันเองโดยที่เราแทบไม่ต้องลงมือเอง ซึ่งโอกาสสำเร็จ ก็ขึ้นอยู่กับเลเวลตัวละคร และ สกิล ด้วยครับ

การลอบเข้าโจมตีจากที่สูง เป็นกลยุทธ์ของเทพบุตรยอดนักฆ่า “เอสซิโอ้” ที่ยังคงเอามาใช้กับเกมแนวรอบเล้นได้เสมอ

ตลอดการเล่น ผู้เล่น อาจจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นอยู่ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องบู๊แหลกเสมอไป หรือลอบเร้น ลอบสังหารในเงามืดเสมอไปเช่นกัน อันนี้ก็แล้วแต่ความสามารถของผู้เล่นเองละครับ ที่จะกำหนดการเล่นไปในทิศทางไหน (แอดมินนึกถึงระบบเกมเพลย์ของ Deus Ex : Human Revolution ขึ้นมาเลย เพราะมีแนวคิดการเล่นแบบตัวเลือกที่เปิดกว้างคล้ายๆกันครับ)

ต้องฆ่ามันให้ตายในทันที ไม่งั้น จะเป็นงานยากแน่ๆ ถ้าต้องกลับมาฆ่ามันอีกรอบ เพราะท่าเดิมๆ ใช้กับพวกมันไม่ได้แล้ว…

ที่สำคัญ “ศัตรูทุกตัวในเกมจะมีชื่อ ยศตำแหน่ง และความทรงจำเป็นของตัวเอง” เพราะนี่คือเกมแบบ “Real Time” ครับ แอดมินกำลังจะบอกว่า “ในขณะที่เรากำลังทำเควสหนึ่ง แต่อีกเควสกำจัดศัตรูที่กดรับเควสมา แล้วยังไม่ได้ทำ เป้าหมายที่เราจะไปกำจัดของเควสทีสองระหว่างทำเควสแรก จะมีโอกาศ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง หรือเลเวลครับ” และ “ถ้าเราไม่สามารถกำจัดเป้าหมายได้ในทันที มันจะหนีไป และจดจำว่า ท่าไหนที่เราเคยใช้ไปกับมันแล้ว จะกลับมาใช้เป็นครั้งที่สองไม่ได้” (พวกนี้เป็น “โกลด์เซนต์” ใน12ปราสาทรึไงฟะ!?) แน่นอนว่า ความยากก็จะเพิ่มขึ้น ดังนั้น ต้องวางแผนก่อนรับเควสด้วยนะครับ

ถ้าใครยังไม่เบื่อ “มัชฌิมโลก” ซะก่อน ก็อยากให้มาลองเล่นกันนะครับ

ถือเป็นเกมที่น่าสนใจที่สุดอีกหนึ่งเกมในช่วงนี้ ที่ทั้งคอหนัง “แหวนนรกครองโลก” หรือ “คอเกมที่ชอบความโหด ดิบ เถื่อน” ไม่ควรพลาด ไม่แน่ว่า อาจจะไม่ทำให้คุณผิดหวังก็ได้นะครับ…

ขอบคุณที่มา: By Ak Fourtyseven

การเรียกความฟิต

วิธีเรียกความฟิตสำหรับนักฟุตบอล

     นักฟุตบอล หรือนักกีฬาประเภทใดๆ ก็ตาม แม้จะมีทักษะหรือความเก่งกาจมากมายเพียงใด

แต่ถ้าหากขาด ความฟิต ที่จะยืนอยู่ตลอดการแข่งขันแล้วละก็

ทักษะหรือฝีมือนั้น ก็แทบจะปล่าวประโยชน์

ในเกมการแข่งขันของฟุตบอลอาชีพ เพื่อนๆ อาจได้ยินว่า นักเตะคนดังไม่ผ่านการทดสอบความฟิต

ไม่มีชื่อเป็นผู้เล่น 11 ตัวจริง หรือแม้กระทั่ง ตัวสำรองข้่างสนาม

หากเพื่อนๆ เข้าใจความสำคัญของความฟิตแล้ว  ลองทำความเข้าใจกับสิ่งต่อไปนี้ครับ

วิธีเรียกความฟิตแบบง่ายๆ สำหรับนักกีฬาฟุตบอลและนักกีฬาประเภทอื่นๆ

เป็นที่แน่นอนครับ หากเราต้องเรียกความฟิต แสดงว่า ร่างกายของเรา ณ เวลานี้ คงยังไม่พร้อมที่จะกรำศึกหนักหรือเล่นกีฬาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนใหญ่เหตุผลมาจาก 

- มีเวลาในการฝึกซ้อมน้อย  ... เพราะทำงานแล้ว  ใกล้สอบ  ฝนตก บาดเจ็บ  ฯลฯ  

- ไม่รู้ว่าจะเริ่มเรียกความฟิตอย่างไร  เพราะเกรงว่าถ้าหักโหมจะเกิดอาการบาดเจ็บ

- เป็นเรื่องยาก ต้องใช้เวลาและวินัยของตนเองพอสมควร  ต้องมีความสม่ำเสมอ ในการเรียกความฟิตกลับคืนมา

 

วิธีเรียกความฟิตในแบบที่ผมจะนำเสนอนี้ เป็นแบบฉบับที่ทำได้ง่ายๆ แต่คงไม่อาจเทียบเท่าโปรแกรมการเรียกความฟิต

ของนักเตะระดับสโมสรใหญ่ๆ หรือระดับชาติได้  แต่มันก็ให้ผลที่ดี ไม่เลวนัก

- ควบคุมอาหาร  ปัจจัยแรกๆ สำหรับการเรียกความฟิตกลับคืนมา คือการรับประทานอาหาร  ควรสำรวจตัวเองก่อนว่า สภาพร่างกายเราขณะนี้ อ้วนไป ผอมไป มวลกล้ามเนื้อมากไป น้อยไป  แล้วเราจึงมากำหนดการรับประทานอาหาร ในหัวข้อนี้มีให้ศึกษาค้นคว้าครับข้อข้าม

- วิ่งให้ได้ 30 นาที / ครั้ง  แบบต่อเนื่อง    .... ไม่จำเป็นต้องวิ่งเร็ว.... เพียงรักษาจังหวะการวิ่งให้สม่ำเสมอ.. ให้ปอด หัวใจ กล้ามเนื้อ ปรับตัวและคุ้นเคยกับการออกกำลังกายที่จะค่อยๆ หนักขึ้น... โดยคุณต้องวิ่งติดต่อกันทุกวัน เป็นเวลา 1 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้นได้ยิ่งดี  ... แล้วคุณจะพบถึงการเปลี่ยนแปลง

- การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ... สำคัญมากๆ  การยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกาย ( warm up ) และการยืดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย ( cool down หรือ warm down )  จะบ่งบอกทิศทางของความฟิต   หากคุณบกพร่องหรือละเลย การยืดกล้ามเนื้อ จุดจบของการเรียกความฟิตของคุณ ก็จะนำไปสู่อาการบาดเจ็บ ส่งผลให้ยืดระยะเวลาในการเรียกความฟิตของคุณไปอีก เพราะฉะนั้น  วินัยที่แทบจะปฏิเสธไม่ได้ของนักกีฬาทุกประเภท คือ การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ( stretching )

- ภายหลังการยืดเหยียดกล้ามเนื้อในช่วงแรก ... ให้วิ่งด้วยความเร็วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ของความเร็วที่เราวิ่่่งได้ เพื่อสร้างความคุ้นเคย ในการที่สมองสั่งการให้กล้ามเนื้อ ทำงานหนักขึ้น 

โดยวิ่งในระยะ 50 เมตร ไป กลับ ตั้งแต่ 5-10 รอบ 

- การมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่อง การพักผ่อนของร่างกาย จริงๆแล้ว นักกีฬาฟุตบอล หากมีการฝึกซ้อมติดต่อกันเป็นเวลา นานประมาณ 5 วัน ร่างกายของเราก็จะสะสมความเมื่อยล้าเอาไว้  อันนี้แหละที่จะส่งผลให้ ฟอร์มการเล่นของเราตกลง ขาดความมั่นใจตัวเอง เพราะฉะนั้น ใน 1 สัปดาห์ ควรหาวันพัก ซัก 1 วัน  ภายหลังการพัก คุณก็จะพบว่า ฟอร์มการเล่น ของคุณจะโดดเด่นขึ้น ร่างกายโล่งสบาย...  

- การวิ่งสเต็ป เช่น วิ่งยกเข่าต่ำ วิ่งยกเข่าสูง  วิ่งสไลด์ข้าง วิ่งดีดส้นฯลฯ  ให้กระทำต่อจากการวิ่งทางตรงในระยะ 50 เมตร ด้วยความเร็ว 80 เปอร์เซ็นต์  ... เพิ่มศักยภาพการทำงานของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

- กล้ามเนื้อหน้าท้อง  ... ในนักกีฬาที่มีความฟิตสูง กล้ามเนื้อหน้าท้องจะแข็งแรง ได้รูป.. เพราะการซิตอัพหรือการทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรง ก็จะเพิ่มความฟิตให้กับผู้เล่นได้เป็นอย่างมาก  ( กล้ามท้องคืออีกจุดศูนย์รวมพลังงาน )

ลูกบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่

 

เผยโฉมลูกฟุตบอลที่จะใช้ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลใหม่แล้ว โดยมาในโทนที่แตกต่างจากเดิม

โดยถือเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ฤดูกาล 2008-09 ที่มีการออกแบบมาในโทนเรียบง่ายที่สุดแบบใช้สีเดียวคือ แดง เพราะที่ผ่านมานั้น ไนกี้มักจะใส่ลวดลายเยอะกว่านี้ แถมยังได้ผสมโทนสีซึ่งแตกต่างกันลงไปในลูกฟุตบอลของพวกเขาด้วย

สำหรับลูกฟุตบอลสำหรับฤดูกาล 2015-16 พื้นผิวมาพร้อมกับกราฟิกแบบใหม่ โดยเป็นฉาบสีแดงให้เกือบทั่วตารางห้าเหลี่ยม แต่เว้นไว้บางช่อง ด้วยระยะห่างแบบสมดุลกัน จึงปรากฏพื้นสีขาวแซมให้เห็นด้วยในบางส่วน ขณะที่โลโก้ไนกี้เป็นสีเขียวสะท้อนแสง เหมือนอย่างสตั๊ดพวกตระกูลเมอร์คิวเรียลหรือมาจิสต้า ซึ่งพาดไว้ใต้สัญลักษณ์ของพรีเมียร์ลีก

ส่วนเทคโนโลยีที่ใช้เป็นแบบเดิมตามฉบับของลูกฟุตบอลตระกูลออร์เด็มในฤดูกาลก่อนหน้า โดยประกอบขึ้นจากแผ่นหนัง 12 ชิ้น ซึ่งชั้นรองรับใต้พื้นผิว 3 ชั้น และเทคโนโลยี แอร์โรว์แทร็ก (Aerow Trac) ตรงร่อง ก็จะช่วยเพิ่มแรงเสียดทาน สำหรับจับของผู้รักษาประตู อีกทั้งทำให้ลูกฟุตบอลมีวิถีโค้งและสมดุลจนสามารถพุ่งหาเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ

โดยไนกี้ ผู้สนับสนุนลูกฟุุตบอลให้ลีกดัง อาทิ ลาลีกาหรือกัลโช่ ซีเรียอา เลือกจะดีไซน์มาแบบเดียวกัน แต่ต่างเรื่องสี

ขอบคุณที่มา: footyheadlines.com

Review Dying light

 สัวสดีครับผมกันอีกครั้ง   เบื่อกันรึยัง โลกล่มสลาย? เชื้อโรคมหากาฬ? การเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้? ถ้ายังไม่เบื่อ แอดมินมีเกมแนวแอคชั่นมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ที่ยังคงใช้พล๊อตซอมบี้วันสิ้นโลกเป็นจุดขายอีกเกมหนึ่ง เกมนี้มีชื่อว่า“Dying Light”

Dying Light เป็นผลผลิตจาก บ. Warner Bros. Interactive Entertainment พัฒนาโดยทีมงาน ผู้สร้างเกมส์ชาวโปแลนด์อย่าง บ.Techland ที่เคยฝากผลงานอย่าง Dead Island และ Call of Juarez

วิ่งข้ามหลังคา หรือเล่นกับที่สูงๆ พร้อมท่าโลดโผน นี่คือเอกลักษณ์ของความเป็น Free Running

เนื้อเรื่อง  

เมืองฮาราน คือเมืองที่ชาวโลกกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด หลักจากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธ์ใหม่ใน 2 เดือนก่อน ไม่มีใครทราบถึงสาเหตุของการแพร่ระบาดของเชื้อโรคนี้อย่างแท้จริง ฝั่งกระทรวงกลาโหมได้ทำการรับมือกับเหตุการณ์ครั้งนี้โดยการสร้างกำแพงล้อมรอบเมืองนี้ไว้เพื่อเป็นเขตกักกันเชื้อโรค

โดยมีหน่วยงาน G.R.E. (องค์กรบรรเทาสาธาณภัยร้ายแรงระดับโลก) ที่คอยส่งเสบียงช่วยเหลือทางอากาศให้กับผู้รอดชีวิตภายใต้กำแพงเมืองนี้ แต่ทางกระทรวงกลาโหม กลับเชื่อว่า การทำลายเมืองนี้จะเป็นวิธีเดียวที่จะยับยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสนี้ได้ ทำให้ก่อให้เกิดคำถามขึ้นว่า ภายในเมืองฮารานยังมีคนรอดชีวิตอยู่จริงตามที่ G.R.E. กล่าวเอาไว้หรือไม่ ? แล้วถ้ามีผู้รอดชีวิตอยู่จริง กระทรวงกลาโหมก็ไม่ควรสั่งทำลายเมืองนี้ โดยเราจะได้รับบทเป็น Kyle Crane  เจ้าหน้าที่อิสระผู้มีฝีมือดีจนเข้าตา G.R.E ทำให้ได้รับมอบหมายภารกิจพิเศษเข้าไปตามหาผู้รอดชีวิตในเมืองฮาราน

เกมเพลย์ กับความเหมือนที่(เขาว่า)แตกต่าง!!

 

เกมเพลย์หลักๆ จะเป็นการเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้ในเมืองที่เต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อ แต่ทว่า ตัวเกมจะมีความรวดเร็วและคล่องตัวอย่างมาก กับการวิ่งไปตามตึกแบบ “Free Running” ถ้านึกไม่ออกล่ะก็ ให้นึกถึงเกม Mirror Edge ที่ออกไปในแนว “วิ่งสู้ฟัด” เน้นไปที่การวิ่งหนีจากจุด A ไปจุด B ที่ไม่ค่อยมีให้เห็นในเกมซอมบี้ที่ส่วนใหญ่ที่จะเน้นไปที่การฆ่าล้างซอมบี้อย่างเมามันแทนการวิ่งหนีแบบนี้ และนอกจากการหนีซอมบี้แล้ว เรายังต้องคอยระวังอันตรายจากคนด้วยกันเองอีกด้วย

ถึงแม้ตัวเกมจะเน้นไปที่การวิ่งหนีปีนป่ายไปตามทาง แต่ตัวเกมยังมีฉากที่ต้องบู๊กับซอมบี้เป็นระยะ โดยเน้นไปที่การอัดแบบเพียวหยิบจับข้าวของรอบตัวมาฟาดใส่ซอมบี้ และยังมีระบบการสร้างอาวุธสำหรับใช้งานได้เอง โดยจำเป็นต้องอาศัยพิมพ์เขียว (ฺBlueprints) ในการสร้าง นอกจากนี้ ผู้เล่นจะต้องคอยหาอาหารเพื่อประทังชีวิตในแต่ละวัน และหาวัสดุสิ่งของเพื่อผลิตเป็นอาวุธเพื่อรับมือกับซอมบี้ รวมทั้งการหายารักษาอัตราการแพร่กระจายไวร้สซอมบี้ในระหว่างการเล่นด้วย

การพัฒนาตัวละครจะมี 3 สายคือ

- Survivor (ทักษะเอาตัวรอด)

- Agility (ทักษะการวิ่งหนี)

- Power (ทักษะการต่อสู้)

  

ความแตกต่าง กลางวัน / กลางคืน 

เกมส์ นี้จะมีช่วงเวลากลางวัน / กลางคืน โดยช่วงเวลาค่ำเป็นต้นไป ผู้เล่นจะกลายเป็นผู้ถูกล่า เนื่องจากซอมบี้มีความสามารถที่โหดขึ้น และพร้อมจู่โจมเหล่าผู้รอดชีวิตทุกเมื่อ และความมืดยังเป็นอุปสรรคในการมองเห็น ทักษะการมองในที่มืดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

กลางวัน ซอบบี้จะเซื่องซึมและไม่ดุร้าย ผู้เล่นสามารถเข้าเล่นกับซอมบี้ได้แบบนี้ !!

  

แต่กลางคืน พวกมันจะแห่กันมากินตับเราเป็นฝูง งานนี้ตัวใครตัวมัน !!

คำถามที่มีต่อผู้พัฒนาเกม?

ทาง โปรดิวเซอร์เกมจาก Techland ได้ออกมายอมรับว่า มีหลายครั้ง ที่เกมนี้ถูกตั้งคำถามว่า “เกมนี้มันจะต่างกับ Dead Island”ที่เขาเคยทำออกมายังไง ?” ซึ่งทาง Tymon Smektala ก็ออกมาตอบโดยสรุปใจความได้ว่า “เกมนี้จะมีช่วงเวลาที่ชัดเจนเลย ว่าคุณต้องทำอะไรในแต่ละวัน กลางวันคุณอาจจะออกไปหาข้าวของเครื่องใช้เพื่อยังชีพ หรือทำเควสต่างๆ แต่เวลากลางคืน จะทำให้คุณนอนไม่ได้แน่นอน เพราะเหล่าซอมบี้ ก็ออกล่าพวกคุณในตอนกลางคืน เหมือนกับว่า พวกมันมาเอาคืนในสิ่งที่คุณทำกับพวกมันในตอนกลางวัน ซึ่งผมว่า Dead Island ออกจะเคว้งคว้าง และดูไม่มีมิติเท่าไหร่”

Screenshot

 

 

  

ขอบคุณที่มา :www.metalbridges.com